เรขศิลป์เรียนอะไร

เรขศิลป์เรียนอะไร

  • ปี 1-4 เรียนอะไรบ้าง
  • ทำงานอะไร เรียนต่ออะไร
  • ใครเหมาะจะเรียนเรขศิลป์บ้าง

เรขศิลป์หรือ Graphic Design เป็นวิชาเอกในภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรม จุฬาฯ แต่ละมหาวิทยาลัยก็มีชื่อเรียกวิชานี้แตกต่างกัน เช่น

  1. นิเทศศิลป์ ของศิลปากร ลาดกระบัง
  2. ออกแบบสื่อสาร ของมศว
  3. เรขศิลป์ ของศิลปกรรม จุฬาฯ
  4. CommDe (Communication Design) ของสถาปัตย์ จุฬาฯ
  5. CommDes (Communication Design) ของบางมด

ใครสงสัยว่าที่ไหนเรียนอะไรหรือที่มานะสอนวิชาอะไรบ้างดูได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ

ด้านล่างเป็นคลิปที่พี่ ๆ จากแต่ละมหาวิยาลัยมาคุยกันว่าเราเรียนแตกต่างกันยังไง


เรขศิลป์เรียนอะไรบ้าง

เรขศิลป์เรียนอะไร-การเรียนปี1

การเรียนปี 1 — ชีวิตใหม่ในมหาลัย

ช่วงปี 1 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตมหาลัย รวมไปถึงกิจกรรมรับน้องที่หลาย ๆ คนอาจจะกลัว ที่คณะศิลปกรรมกิจกรรมรับน้องไม่ถือว่าหนักหนาเกินไป สำหรับวิชาที่เรียนก็จะมีพื้นฐานการออกแบบ 2 มิติ 3 มิติ วาดเส้น ประวัติศาสตร์ศิลป์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิชาพื้นฐานของเมเจอร์ทั้งหมดในนฤมิตศิลป์ โดยรวมเป็นปีที่เรียนไม่ยากแต่อาจจะรู้สึกว่ากิจกรรมเยอะไม่ค่อยมีเวลาทำการบ้าน

เรขศิลป์เรียนอะไร-การเรียนปี2

การเรียนปี 2 — พื้นฐานกราฟิก

ปีสองเป็นปีแรกที่น้อง ๆ จะได้เรียนวิชาเมเจอร์ของตัวเองอย่างจริงจัง สำหรับเรขศิลป์ก็จะเป็น Graphic 1-5 ใน 1 เทอมก็เรียน 1 ตัว อาจจะเรียงไม่เหมือนกันในแต่ละปี โดยปกติปีสองจะเรียนเรื่อง Typography, Environmental Graphic Design, เรียนการเขียน Design Brief, เรียนวิชา Color หรือ Illustration ส่วนพวกวิชาการก็เรียนคล้าย ๆ ปีหนึ่งคือพวกภาษา ประวัติศาสตร์ศิลปะและที่เพิ่มมาคือวิชาเลือกนอกคณะที่น้อง ๆ เลือกได้เองว่าอยากเรียนวิชาของคณะอะไร

เรขศิลป์เรียนอะไร-การเรียนปี3

การเรียนปี 3 — เป็นนักศึกษาฝึกงาน

โดยรวมน้อง ๆ จะได้เรียนวิชาที่ยากขึ้น มีกระบวนการคิดการทำงานแต่ละโปรเจ็คที่ยาวนานขึ้น วิชา Graphic มักจะเรียนเรื่อง Branding, Editorial Design (เรียนทำหนังสือทำแม็กกาซีน), เรียน Ad (โฆษณา), วิชาการเขียนวิจัย ฯลฯ อาจจะมีอาจารย์พิเศษนอกคณะมาสอนวิชา Photo หรือวิชาพิเศษอื่น ๆ และในระหว่างปิดเทอมจะต้องไปฝึกงาน โดยน้อง ๆ จะต้องทำพอร์ตเพื่อยื่นฝึกงานแต่ละที่ด้วยตนเอง งานที่อยู่ในพอร์ตส่วนมากก็จะเป็นงานระหว่างที่เราเรียนปี 1-3

เรขศิลป์เรียนอะไร-การเรียนปี4

การเรียนปี 4 — ทีสิส

ปีสี่จะเป็นปีที่เราทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำทีสิส โดยเราจะต้องคิดหัวข้อตั้งแต่ช่วงปิดเทอม เปิดเทอมปีสี่เราก็ยื่นหัวข้อ ถ้าผ่านก็สามารถเขียนวิจัยต่อได้เลย ส่วนในเทอมสองจะเป็นการออกแบบทีสิส โดยนำวิจัยที่เราทำเสร็จแล้วมาใช้ ปีสี่เป็นปีที่ว่างมากที่สุด น้อง ๆ บางคนที่เรียนวิชาเลือกครบแล้วอาจจะเรียนแค่อาทิตย์ละ 1-2 วัน เทอมสองก็ไปเจออาจารย์ที่ปรึกษาตามที่อาจารย์นัด ไม่มีวิชาที่ต้องเรียน


จบมาแล้วทำงานอะไร

สายงานของนักกราฟิกมีความหลากหลายมาก หลายคนก็ไปอยู่บริษัทกราฟิกทั้งขนาดเล็กและใหญ่ บางคนทำงานกับสำนักพิมพ์ บางคนไปทำเว็บไซต์ หรือถ้าเป็นคนที่คิดเก่ง ๆ ก็ไปอยู่กับบริษัทโฆษณา ตัวอย่างงานและตำแหน่งที่น้องควรรู้จักได้แก่

  1. นักกราฟิก (Graphic Designer) เป็นความหมายกว้าง ๆ ทำงานออกแบบหน้าปกหนังสือ จัดเลย์เอาท์ ออกแบบ Brand Identity ออกแบบ Environmental Graphic ฯลฯ
  2. นักวาดภาพประกอบ (Illustrator) วาดภาพประกอบสำหรับสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือ นิตยสาร บรรจุภัณฑ์ ป้าย โบรชัวร์ สติ้กเกอร์ ฯลฯ
  3. นักคิดโฆษณา (Creative) คือคนที่มีหน้าที่คิดโฆษณา โดยอาจจะไม่ต้องคิดภาพหรือออกแบบอะไรเลยก็ได้
  4. ผู้กำกับศิลป์ (Art Director) คนที่ออกแบบภาพและกำหนดทิศทางองค์ประกอบศิลป์ ในแมกกาซีน หนังสือ ภาพถ่าย โฆษณาหรือแม้แต่ภาพยนตร์
  5. นักออกแบบตัวอักษร (Typographer) คนออกแบบตัวอักษรหรือฟอนต์
  6. ห้องอาร์ต หมายถึง คนที่คอยรับคำสั่งจากนักออกแบบ ทำตามคำสั่งต่าง ๆ เช่น วาดรูป ไดคัทรูป รีทัชรูป ฯลฯ

ถ้าใครยังนึกไม่ออก ลองเข้าไปดูตัวอย่างกันค่ะว่าสตูดิโอกราฟิกเค้าทำงานอะไรกันบ้าง ครึ่งแรกจะเป็นสตูดิโอต่างประเทศส่วนครึ่งหลังเป็นสตูดิโอในประเทศไทยนะคะ


เรขศิลป์เรียนอะไร-ใครเหมาะจะเรียนเรขศิลป์บ้าง-02

ใครเหมาะจะเรียนเรขศิลป์บ้าง

คนที่เหมาะจะเรียนเรขศิลป์ ก็จะมีนิสัยของนักออกแบบ คือสนใจเรื่องความงามและประโยชน์ใช้สอย ช่างสังเกต มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบลองผิดลองถูกหรือหาคำตอบใหม่ ๆ เป็นคนมีความคิดเห็น เป็นคนชอบแก้ปัญหา สามารถอธิบายสิ่งที่ตัวเองคิดได้

ข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนเรียนเรขศิลป์

สำหรับน้อง ๆ ที่ชอบวาดการ์ตูน หรือทำ Animation ก็มีคณะอื่น ๆ ที่จะเหมาะสมกว่าเรขศิลป์นะคะ เพราะเรขศิลป์จะไม่เน้นเรื่องการวาดการ์ตูนหรือทำ Animation บางคนเข้าใจผิดกว่าจะรู้ตัวก็ขึ้นปี 2-3 แล้ว

อีกกรณีที่ต้องระวังคือ การเรียนเรขศิลป์ไม่ใช่การเรียนคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่การเรียน Photoshop Illustrator คนที่ชอบทำงานคอม อาจจะไม่ได้ชอบออกแบบกราฟิกก็ได้ ตลอด 4 ปีที่เรียน น้อง ๆ อาจจะได้เรียนวิชาคอมพิวเตอร์เพียง 1-2 ตัวเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการหาความรู้หรือเรียนด้วยตัวเองค่ะ

ข้อดีของการเรียนเรขศิลป์

จุดเด่นของเรขศิลป์คือการออกแบบอย่างมีเหตุผล มีที่มาที่ไป มองการออกแบบว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ใช่แค่การตกแต่งให้สวยงาม ทำให้น้อง ๆ ที่จบมาค่อนข้างพร้อมกับการทำงานจริง

เนื่องจากเรขศิลป์รับจำนวนน้อย 1 รุ่นรับ 20 คน ทำให้การแข่งขันสูง เพื่อน ๆ ในห้องส่วนใหญ่จะมีความตั้งใจทำให้เราขยันไปด้วย

สุดท้ายคือการเรียนในใจกลางเมือง ทำให้เราได้พบเห็นงานออกแบบตามห้างสรรพสินค้าตามสยาม สามารถไปพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการต่าง ๆ ได้สะดวก มีอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับการออกแบบอยู่บ่อย ๆ